สาขาฟิสิกส์
อัลเบิร์ต
ไอน์สไตน์
ประวัติ
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
(Albert Einstein)เป็นนักฟิสิกส์ทฤษฎี ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2428
ชาวเยอรมันเชื้อสายยิวที่มีสัญชาติสวิสและอเมริกัน (ตามลำดับ)
ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่
20 เขาเป็นผู้เสนอทฤษฎีสัมพัทธภาพ และมีส่วนร่วมในการพัฒนากลศาสตร์ควอนตัม
สถิติกลศาสตร์ และจักรวาลวิทยา เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ใน พ.ศ. 2464 จากการอธิบายปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก
และจาก "การทำประโยชน์แก่ฟิสิกส์ทฤษฎี"
หลังจากที่ไอน์สไตน์ค้นพบทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป
ในปี พ.ศ. 2458
เขาก็กลายเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยธรรมดานักสำหรับนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่ง
ในปีต่อ ๆ มา ชื่อเสียงของเขาได้ขยายออกไปมากกว่านักวิทยาศาสตร์คนอื่น ๆ
ในประวัติศาสตร์ ไอน์สไตน์ ได้กลายมาเป็นแบบอย่างของความฉลาดหรืออัจฉริยะ
ความนิยมในตัวของเขาทำให้มีการใช้ชื่อไอน์สไตน์ในการโฆษณา
หรือแม้แต่การจดทะเบียนชื่อ "อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์" ให้เป็นเครื่องหมายการค้า
ตัวไอน์สไตน์เองมีความระลึกถึงผลกระทบทางสังคม
ซึ่งมีผลมาจากการค้นพบทางวิทยาศาสตร์อย่างลึกซึ้ง
ในฐานะที่เขาได้เป็นปูชนียบุคคลแห่งความบรรลุทางปัญญา
เขายังคงถูกยกย่องให้เป็นนักฟิสิกส์ทฤษฎีที่มีอิทธิพลต่อวิทยาศาสตร์ที่สุดในยุคปัจจุบัน
ทุกการสร้างสรรค์ของเขายังคงเป็นที่เคารพนับถือ ทั้งในความเชื่อในความสง่า ความงาม
และความรู้แจ้งเห็นจริงในจักรวาล
(คือแหล่งเสริมสร้างแรงบันดาลใจในวิทยาศาสตร์ให้แก่นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่)
เป็นสูงสุด ความชาญฉลาดเชิงโครงสร้างของเขาแสดงให้เห็นถึงองค์ประกอบของจักรวาล
ซึ่งงานเหล่านี้ถูกนำเสนอผ่านผลงานและหลักปรัชญาของเขา ในทุกวันนี้
ไอน์สไตน์ยังคงเป็นที่รู้จักดีในฐานะนักวิทยาศาสตร์ที่โด่งดังที่สุด
ทั้งในวงการวิทยาศาสตร์และนอกวงการ
ผลงานของไอน์สไตน์ในสาขาฟิสิกส์มีมากมาย
ต่อไปนี้เป็นส่วนหนึ่ง:
- ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ ซึ่งนำกลศาสตร์มาประยุกต์รวมกับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
- ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป ทฤษฎีใหม่เกี่ยวกับแรงโน้มถ่วง ซึ่งเป็นไปตามหลักแห่งความสมมูล
- วางรากฐานของจักรวาลเชิงสัมพัทธ์ และค่าคงที่จักรวาล
- ขยายแนวความคิดยุคหลังนิวตัน สามารถอธิบายจุดใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดของดาวพุธได้อย่างลึกซึ้ง
- ทำนายการหักเหของแสงอันเนื่องมาจากแรงโน้มถ่วงและเลนส์ความโน้มถ่วง
- อธิบายการเกิดปรากฏการณ์ของแรงยกตัว
- ริเริ่มทฤษฎีการแกว่งตัวอย่างกระจายซึ่งอธิบายการเคลื่อนที่ของบราวน์ของโมเลกุล
- ทฤษฎีโฟตอนกับความเกี่ยวพันระหว่างคลื่น-อนุภาค ซึ่งพัฒนาจากคุณสมบัติอุณหพลศาสตร์ของแสง
- ทฤษฎีควอนตัมเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของอะตอมในของแข็ง
- พลังงานที่จุดศูนย์
- อธิบายรูปแบบย่อยของสมการของชเรอดิงเงอร์
- EPR paradox
- ริเริ่มโครงการทฤษฎีแรงเอกภาพ
ไอน์สไตน์ได้ตีพิมพ์ผลงานทางวิทยาศาสตร์มากกว่า
300 ชิ้น และงานอื่นที่ไม่ใช่วิทยาศาสตร์อีกกว่า 150 ชิ้นปี พ.ศ. 2542
นิตยสารไทมส์ ยกย่องให้เขาเป็น "บุรุษแห่งศตวรรษ"
ผู้เขียนชีวประวัติของเขาเอ่ยถึงเขาว่า "สำหรับความหมายในทางวิทยาศาสตร์
และต่อมาเป็นความหมายต่อสาธารณะ ไอน์สไตน์ มีความหมายเดียวกันกับ อัจฉริยะ"
นีลส์ โบร์
ประวัติ
นีลส์
โบร์ (Niels Hendrik David Bohr)นักฟิสิกส์ชาวเดนมาร์ก เกิดที่กรุงโคเปนเฮเกน
จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกนแล้วจึงได้ไปทำงานที่ประเทศอังกฤษ
ที่เมืองเคมบริดจ์ และแมนเชสเตอร์
ต่อมาได้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันฟิสิกส์ทฤษฎีที่โคเปนเฮเกนตั้งแต่ปี พ.ศ.
2463 จนถึงแก่กรรม นีลส์ โบร์ ได้ขยายต่อยอดทฤษฎีโครงสร้างอะตอมให้ก้าวหน้าไปเป็นอันมาก
จากการให้การอธิบายสเปกตรัมของไฮโดรเจน
โดยวิธีสร้างแบบจำลองไฮโดรเจนและทฤษฎีควอนตัม (พ.ศ. 2456)
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่
2 บอร์ได้ไปช่วยโครงการวิจัยระเบิดปรมาณูที่
สหรัฐอเมริกาและกลับโคเปนเฮเกนเมื่อสิ้นสงครามในปี พ.ศ. 2488,
นีลส์ โบร์
เป็นผู้ก่อตั้งและเป็นผู้อำนวยการสถาบันฟิสิกทฤษฎีที่โคเปนเฮเกน
ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์เมื่อ พ.ศ. 2465
มักซ์
พลังค์
ประวัติ
มักซ์ คาร์ล แอนสต์
ลุดวิก พลังค์ (Max Karl Ernst Ludwig
Planck) เป็นนักฟิสิกส์ชาวเยอรมัน ผู้บุกเบิกการศึกษาทฤษฎีควอนตัม
อันเป็นส่วนสำคัญในการศึกษาฟิสิกส์สมัยใหม่ แม้ในชีวิตตอนแรกของเขาจะดูราบรื่น โดยเขามีความสามารถทั้งทางดนตรีและฟิสิกส์
แต่เขากลับเดินไปในเส้นทางแห่งนักฟิสิกส์ทฤษฎี
จนเขาได้ตั้งทฤษฎีทางฟิสิกส์ที่สำคัญต่อฟิสิกส์สมัยใหม่ นั่นคือ
กฎการแผ่รังสีของวัตถุดำของพลังค์ รวมถึงค่าคงตัวของพลังค์
ซึ่งนับว่าขาดไม่ได้เลยสำหรับการศึกษากลศาสตร์ควอนตัม
ทว่าบั้นปลายกลับเต็มไปด้วยความสิ้นหวังจากภัยสงคราม เขาต้องสูญเสียภรรยาคนแรก
และบุตรที่เกิดกับภรรยาคนแรกไปทั้งหมด จนเหลือเพียงตัวเขา ภรรยาคนที่สอง
และบุตรชายที่เกิดกับภรรยาคนที่สองเพียงคนเดียว ถึงกระนั้น มักซ์ พลังค์
ก็ยังไม่ออกจากประเทศเยอรมนีอันเป็นบ้านเกิดของเขาไปยังดินแดนอื่น
มักซ์ พลังค์
ได้รับรางวัลโนเบล สาขาฟิสิกส์ ประจำปี พ.ศ. 2461 (มอบให้เมื่อปี พ.ศ. 2462)
นอกจากนี้ สมาคมฟิสิกส์เยอรมันได้นำชื่อเขาไปตั้งชื่อรางวัล "เหรียญมักซ์
พลังค์" (Max Planck Medal) ซึ่งเขาเป็นผู้ได้รับในปีแรกร่วมกับ
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เมื่อปี พ.ศ. 2471
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น